ภาษาเอสเปรันโต

ภาษาเอสเปรันโต
ภาษาเอสเปรันโต หรือชื่อเดิม Lingvo Internacia เป็นภาษาประดิษฐ์ในกลุ่มภาษาช่วยในการสื่อสารสากล (International auxiliary language) ที่ใช้กันมากที่สุดในโลก เป็นหนึ่งในภาษาที่มีกลุ่มผู้ใช้น้อยกลุ่มหนึ่งของโลก โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้เป็นเครื่องสื่อสารทางเลือกและเป็นผลงานสร้างสรรค์ทางศิลปะอย่างหนึ่ง ในปี พ.ศ. 2555 ภาษาเอสเปรันโตได้รับการเพิ่มเข้าไปในกูเกิลแปลภาษา ในปี พ.ศ. 2559 ปรากฏชื่อภาษาเอสเปรันโตในลิสต์รายชื่อภาษาที่เป็นที่รู้จักและเรียนมากในประเทศฮังการี ชื่อภาษาเอสเปรันโตมาจากนามปากกา “D-ro Esperanto„ ในหนังสือของ แอล.แอล. ซาเมนฮอฟ (L.L. Zamenhof) จักษุแพทย์ชาวยิว ซึ่งเป็นหนังสือพื้นฐานของภาษานี้เล่มแรก (โดยมักเรียกชื่อหนังสือเล่มนี้ว่า Unua Libro ซึ่งเขียนในภาษารัสเซีย ได้รับการอนุญาตจำหน่ายเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2430 โดยต้องการให้ภาษาเอสเปรันโตเป็นภาษาที่เรียนรู้ได้ง่าย และเป็นภาษาที่สอง

ประมาณการกันว่ามีผู้พูดภาษาเอสเปรันโตมากกว่า 2,000,000 คน และที่ไม่เหมือนกับภาษาประดิษฐ์อื่นคือมีผู้ที่พูดภาษานี้มาตั้งแต่เกิดประมาณ 2,000 คน สมาคมเอสเปรันโตสากล (Universala Esperanto-Asocio) มีสมาชิกอยู่ในมากกว่า 120 ประเทศ

การประชุมใหญ่เอสเปรันโตสากล (Universala Kogreso de ESperanto) เป็นการประชุมของผู้พูดภาษาเอสเปรันโตในระดับนานาชาติอันหนึ่งที่มีประวัติยาวนาน โดยจัดครั้งแรกในปี พ.ศ. 2448 (ค.ศ.1905) ที่เมืองบูลอน ซู แมร์ ในประเทศฝรั่งเศส

วันที่ 15 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันฉลองของภาษาเอสเปรันโต ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของซาเมนโฮฟ ซึ่งในวันนี้ผู้ใช้ภาษาเอสเปรันโตจะรวมตัวกันในฤดูหนาว และเลี้ยงฉลองกัน โดยบางคนจะซื้อหนังสือภาษาเอสเปรันโตเล่มใหม่ในวันนี้

ภาษาเอสเปรันโตเป็นภาษาเดียวที่มีธงประจำภาษา โดยทั่วไปแล้วภาษาอื่น ๆ จะไม่ใช้ธงชาติมาเป็นธงประจำภาษา เนื่องจากชาติหรือประเทศหนึ่งอาจมีได้หลายภาษา และภาษาหนึ่งอาจพูดในหลายชาติหรือประเทศ ธงประจำภาษาเอสเปรันโต พื้นธงเป็นสีเขียว มีรูปดาวสีเขียวบนพื้นที่สีเหลี่ยมสีขาวอยู่มุมบนซ้าย นอกจากธงแล้วยังมีเพลงประจำภาษาเอสเปรันโตอีกด้วย ชื่อเพลงว่า La Espero แปลว่า ความหวัง ซึ่งมีชื่อเหมือนกับเพลงชาติของอิสราเอล

ภาษาเอสเปรันโตคิดค้นขึ้นช่วงปลาย คริสต์ทศวรรษ 1870 และต้น คริสต์ทศวรรษ 1880 โดยซาเมนฮอฟในช่วงเวลาพัฒนา 10 ปีนั้น ซาเมนฮอฟได้ใช้เวลาในการแปลวรรณกรรมต่าง ๆ มาเป็นภาษาเอสเปรันโต รวมทั้งการเขียนและพัฒนาหลักไวยกรณ์ต่าง ๆ ของภาษา โดยหนังสือไวยกรณ์เล่มแรกในภาษาเอสเปรันโต ชื่อ Международный языкъ. Предисловіе и полный учебникъ หรือที่เรียกกันว่า อูนูอาลิโบร (Unua Libro ความหมายในภาษาเอสเปรันโตว่า หนังสือเล่มแรก) ตีพิมพ์ที่ กรุงวอร์ซอว์ ในเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2430 ซึ่งหลังจากนั้นจำนวนผู้ใช้ภาษาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 20 ปีต่อมา โดยเริ่มต้นจากจักรวรรดิรัสเซีย และ ยุโรปตะวันออก และได้เข้าสู่ ยุโรปตะวันตก อเมริกา ประเทศจีน และประเทศญี่ปุ่น ต่อมาในปี พ.ศ. 2448 การประชุมเอสเปรันโตสากล ได้จัดตั้งขึ้น โดยจัดครั้งแรกที่เมืองบูลอญ-ซูร์-แมร์ (Boulogne-sur-Mer) ในประเทศฝรั่งเศส และหลังจากนั้นมีการจัดประชุมกันทุกปี (ยกเว้นช่วงสงครามโลก) โดยเปลี่ยนสถานที่จัดไปทั่วโลก

ในปัจจุบันภาษาเอสเปรันโตไม่ได้เป็นภาษาทางการของประเทศใด แต่ได้มีการเรียนการสอนในหลายประเทศ อย่างไรก็ตามในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 บริเวณฉนวนโมเรสเนต (Neutral Moresnet, 2359-2462) ได้ถือว่าเป็นรัฐแรกที่ใช้ภาษาเอสเปรันโตเป็นภาษาทางการ

ในปี พ.ศ. 2511 สาธารณรัฐโรสไอส์แลนด์ ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งอิตาลี ประมาณ 11 กม. ได้ประกาศตั้งตัวเป็นประเทศเอกราช และได้ใช้ภาษาเอสเปรันโตเป็นภาษาทางการเช่นกัน อย่างไรก็ตาม โรสไอแลนด์ ไม่ถือว่าเป็นประเทศจากชาติอื่น

ในปี พ.ศ. 2454 ระหว่างช่วงการปฏิวัติซินไฮ่ ในประเทศจีน ได้มีนโยบายในการเปลี่ยนภาษาทางการจากภาษาจีน เป็นภาษาเอสเปรันโต ด้วยเหตุผลที่ว่าให้ประเทศเป็นสากล แต่ได้ถูกยกเลิกไป

ในปี พ.ศ. 2467 ในสหรัฐอเมริกา เริ่มมีการใช้ภาษาเอสเปรันโตสำหรับวิทยุสื่อสาร โดยคาดหวังว่าจะใช้เป็นภาษาหลักในการสื่อสาร แต่สุดท้ายไม่ได้รับการนิยมและได้ยกเลิกไป